วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2559

ฉันดีขึ้นเพราะวัดพระธรรมกาย




             เวลาเราทำอะไรอย่างหนึ่ง เรามักมีเป้าหมายในใจว่าสิ่งนั้นจะเกิดประโยชน์อะไรกับตนเอง เพราะเราล้วนแต่หวังสิ่งดีงามให้กับชีวิตตนให้งอกงามเพิ่มพูนกันทั้งนั้น แต่ล้วนแตกต่างกรรมวิธีด้วยอาศัยพื้นฐานทางภูมิปัญญาที่สั่งสมบ่มมา และอาศัยฐานที่เรียกว่าสัมมาทิฏฐิที่มีเค้ามาจากโยนิโสมนสิการเป็นตัวตัดสินว่าสิ่งเหล่านั้นชอบต่อธรรมหรือไม่
             ความที่หลายๆคนบนโลกนี้ขาดสัมมาทิฏฐิและโยนิโสมนสิการ ทำให้เรามักเลือกของเกิดโทษให้ตนเองโดยไม่รู้ตัว ประหนึ่งไม่รู้ว่าทิศใดคือเหนือทิศใดคือใต้ บ่ายหน้าไปสู่หนทางนั้นด้วยหวังจะเจอสิ่งดีๆ แต่กลับได้สิ่งตรงกันข้ามเสียแทน กลายเป็นเรื่องน่าเศร้าเพราะชีวิตเมื่อพลาดในเส้นทางชีวิตแล้ว มักย้อนกลับแก้ไขได้ยากมาก ยิ่งหากลาโลกไปพร้อมกับทางสายนั้น อบายทั้งหลายจักตะครุบคืบกินกลืนไม่อาจฝืนจากบ่วงนี้ได้อีกนานแสนนาน
             เขาทั้งหลายที่พลาดไปจะว่าน่าสงสารก็ว่าได้ เพราะความไม่รู้เท่านั้นทำให้เราแย่ลง หลงทาง และย่างก้าวไปสู่ความเป็นเราในด้านที่เลวร้ายลงไปเรื่อยๆ เพราะไม่มีใครมาบอกเขาว่าอะไรที่ควรหรือไม่ควรทำ อีกทั้งไม่รู้ว่าจะเอาใครเป็นต้นแบบที่เห็นได้ด้วยตา มาดูให้ชัดและทำตามให้ครบ จึงจะได้ไปสู่เส้นทางสว่างคือสุคติและนิพพาน
             ฉันโชคดีที่ชีวิตนี้ก่อนนั้นก็เคยหลงทางเหมือนคนส่วนใหญ่ เคยเป็นคนที่กำลังก้าวไปสู่ด้านที่เลวร้ายลงไป เพราะไม่รู้ว่าคนเราจะดีแค่ไหนจึงจะพอ ไม่รู้ว่าจะทำตามใครจึงจะเรียกว่าดี ความรู้ในสิ่งเหล่านี้มันน้อยเหลือเกิน ท่ามกลางหมู่คนที่มืดบอดเหมือนๆกัน แต่คงเพราะบุญพาวาสนาส่ง ฉันจึงได้มาเจอวัดพระธรรมกาย ชีวิตที่เคยคิดว่าดีจึงรู้ว่ามีดีกว่า ชีวิตที่เคยหลงทางก็เริ่มเห็นทาง ชีวิตที่กำลังย่างก้าวสู่บ่วงอบายก็รอดไปได้ ด้วยคำสอนของหลวงพ่อธัมมชโยและวัดพระธรรมกายจริงๆ นอกจากจะสอนให้เอาตัวรอดไปสู่ทางสว่างได้ ยังไม่พอ ยังสอนให้ฉันมองเห็นคนหลงทางอีกมากมายที่รอการช่วยเหลือก่อนที่จะสายเกินไป สอนให้ฉันมีหัวใจที่ใหญ่กว่าตัว สอนให้ฉันหาที่พึ่งและสอนให้คนหาที่พึ่งจนพบ นี่คือเรื่องอัศจรรย์ในชีวิตจริงๆที่คนๆหนึ่งแบบฉันจะเป็นไปได้แบบนี้ในวันนี้ ฉันดีขึ้นเพราะวัดพระธรรมกาย วัดทำให้ฉันสว่างพอที่จะช่วยชาวโลกให้สว่างไปด้วยกัน

วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2559

บุญที่ปลื้มใจ




            จำได้ว่าบุญที่ทำมากับวัดพระธรรมกายมีเยอะมาก ทำทานก็ประเภทเรียกว่าใบโมทนาบัตรมีประมาณสักหลายพันใบได้ ทำมากบ้างน้อยบ้าง แต่ไม่เคยตกบุญอะไรเลย รักษาศีลก็ทำมาเป็นสิบๆปี ทำสมาธิก็ทำทุกๆวัน บุญที่ใช้แรงกายแรงใจ สติปัญญาความสามารถและอีกสารพัดจะนับถ้วน มีบุญหลากประเภทที่ได้จากการมาเข้าวัดที่นี้ มาลองคิดๆดูเราเองก็ได้บุญไปไม่ใช่น้อยเลย
            แต่บุญที่ปลื้มที่สุดของตัวเองคือ บุญที่ได้ทำสมาธิจนมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดีพอใช้ได้ และมีใจเนื่องกับสัมมาอะระหัง มีใจอยู่กับสมาธิเป็นอารมณ์ได้ทั้งวัน หลับตาลืมตา นั่งนอนยืนเดิน เรียกได้ว่าอย่างน้อยก็ดีใจที่เกิดมาเพื่อมาทำเป้าหมายคือหยุดนิ่ง เกิดมาเพื่อมาแสวงหาหนทางแห่งนิพพาน นี่คือบุญที่ปลื้มใจมาก เพราะว่าไม่เคยคิดว่าคนธรรมดาอย่างเราพอเอาจริงเข้าก็ทำสิ่งเหล่านี้ได้เหมือนกับเขา มีความสุขกับเขาเหมือนกัน

วันพุธที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2559

หลวงพ่อธัมมชโยที่ฉันรู้จัก




          หลวงพ่อธัมมชโยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย วัดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย วัดที่มีระบบระเบียบ สะอาดสงบ และมีการเผยแผ่อย่างเป็นระบบ ตามหลักพุทธวิธีที่ทรงวางไว้ให้ ฉันเห็นหลวงพ่อธัมมชโยในฐานะของบุคคลหนึ่งที่ทำทุกอย่างเพื่อความสุขแห่งคนทั้งหลาย ทำทุกอย่างเพื่อให้คนเป็นคนดี และสอนให้คนรู้เป้าหมายของการเกิดเป็นมนุษย์
          หลวงพ่อท่านมีปกติแค่นี้ ท่านไม่เคยมีวาระซ่อนเร้น ทำดีหวังผลตอบแทน หวังชื่อเสียง หรือการสรรเสริญใดๆ คนทั่วๆไปทำสิ่งใดๆก็หวังให้คนได้รับรู้ อยากได้กำลังใจ อยากให้คนชม บางพวกดีหน่อยก็คือปิดทองหลังพระไม่หวังผล ส่วนหลวงพ่อธัมมชโยท่านเหมือนปิดทองใต้ฐานพระ คงไม่ต้องบรรยายว่าปิดทองใต้ฐานพระคืออะไร มันแจ้งชัดในความหมายอยู่แล้ว
         หลวงพ่อท่านก็เหมือนเราๆตรงที่ท่านมีสังขารเป็นภาระ มีเวลาเป็นคู่แข่ง การจะช่วยคนมากๆจึงจำเป็นต้องทำงานใหญ่ๆให้ได้ผลต่อคนเยอะๆ เพื่อให้ทันแก่เวลาที่ท่านมีอยู่อย่างจำกัด ท่านจึงมีปกติคิดใหญ่ๆทำใหญ่ๆ บางครั้งคนที่ไม่เข้าใจจึงหาว่าเวอร์ก็มี แต่ถ้าเข้าใจวิธีการคิดของท่าน เราจะรู้ว่าที่ท่านทำนั้นยังนับว่าเล็กน้อย
          ที่สุดแห่งหลวงพ่อคือความกตัญญูกตเวที ไม่เคยจะเห็นใครมีคุณธรรมต่อครูบาอาจารย์ขนาดนี้ ท่านบูชาหลวงปู่วัดปากน้ำและคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูงสุดหัวใจ ทั้งหล่อทองคำเป็นองค์ ทั้งสร้างอนุสรณ์สถาน ทั้งการกล่าวสรรเสริญคุณ การนำคำสอนของท่านมาปฏิบัติ สุดจะสรรหาวิธีการเพื่อเทิดทูนคุณของครู
          หลวงพ่อในสายตาของฉันจึงเป็นคนคนนึงที่มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ ใหญ่จนใครๆต้องอัศจรรย์ จนต้องสงสัยว่าคนแบบนี้มีอยู่บนโลกด้วยหรือ แต่อย่าสงสัยนานนักละ เพราะว่ามีจริงๆที่วัดพระธรรมกาย

วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2559

วัดพระธรรมกายที่เห็นและทราบด้วยใจ



            วัดพระธรรมกาย บุญสถานที่คนทั้งหลายล้วนมุ่งหน้ามาเพื่อหวังจะเป็นเครื่องชูใจ เป็นที่พึ่งที่ระลึก เป็นหนทางแห่งสุคติและการดับกิเลสคือนิพพาน ฉันเห็นวัดนี้เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มได้รู้จัก ได้เข้าใกล้ ได้คบหาสมาคม จนได้ทราบและซาบซึ้งในเป้าหมายของวัด และได้มาเป็นส่วนหนึ่ง เป็นกำลังอีกหนึ่งกำลังที่จะช่วยกันนำพาผู้คนไปสู่เส้นทางแห่งความสุข
            ตลอดกาลเวลาที่อยู่วัดพบว่าทุกๆคนที่มาวัดล้วนมีเจตนาที่ดี มีกำลังใจอันเข้มแข็ง มีความปรารถนาดีต่อตนเองและผู้อื่น แม้บางครั้งเราอาจทำผิดพลาดเพราะเรายังฝึกตัว ยังต้องทำหน้าที่เป็นแสงสว่างแก่ผองชนไปพร้อมๆกับพยายามทำตนให้สว่างไสวพอที่จะพึ่งตัวเองได้ เราพยายามทำทั้งสองกิจ คือ ส่วนตนและส่วนรวมไปพร้อมๆกัน
            วัดพระธรรมกายในสายตาฉันจึงเป็นวัดที่แปลกจากคนอื่นก็ตรงที่ส่วนใหญ่เรามักจะทำความสว่างและรุ่งเรืองในชีวิตทั้งทางโลกและทางธรรมแก่ตนเอง แต่ที่วัดเน้นการจุดความสว่างในใจคนรอบตัวให้รุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรมไปด้วยกัน อย่างนี้สินะที่เรียกว่าพระโพธิสัตว์
             แน่นอนว่าเมื่อหมู่คณะมันใหญ่ เรื่องก็ใหญ่และเยอะตามคนตามขนาด  แต่เชื่อว่าถ้าเราไม่มีขนาดและหมู่ใหญ่ขนาดนี้ เราก็คงทำงานใหญ่ๆไม่ได้ เหมือนคนสองสามคนคงเปิดบริษัทระดับ international ไม่ได้ เปิดได้ก็คงแค่ SME การจะพาคนทั้งโลกไปสู่ความสว่างไสวจึงต้องมีหมู่ใหญ่ช่วยกันพาไป ดังนั้นอย่าแปลกใจที่เรามักทำอะไรๆเหมือนๆกัน พูดอะไรเหมือนๆกัน มีภาษาของเราเหมือนๆกัน มีศีลเหมือนกัน รักบุญเหมือนกัน รักการทำสมาธิเหมือนกัน มีเป้าหมายเดียวกันเพราะการสื่อสารที่ดีที่สุดของการทำงานหมู่ใหญ่คือ การปลูกฝังวัฒนธรรมหมู่คณะให้ชัดเจนและแข็งแกร่งเพื่อให้ความแข็งแกร่งนี้เป็นแบบแผนต่อคนรุ่นใหม่ๆ
             วัดพระธรรมกายก็มีแค่นี้แหละ มีความปรารถนาดีต่อตนเอง และมีใจที่จะช่วยคนให้ได้มากที่สุด เค้าคิดกันแค่นี้จริงๆ ฉันเห็นของฉันแบบนี้ล่ะ
           

วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2559

บูชาข้าวพระ



           วันนี้วันอาทิตย์ต้นเดือน จะรู้กันในหมู่ชาววัดพระธรรมกายว่า วันนี้ถ้าไม่เจ็บป่วยปางตายหรือมีธุระสำคัญระดับที่เป็นความเป็นความตายละก็ ต้ ต้องมารวมงานบูชาข้าวพระให้ได้เพราะว่าเป็นบุญใหญ่ที่เดือนนึงมีเพียงครั้งเดียว ฉันปลื้มใจเพราะว่าได้เตรียมตัวตามหลักวิชชาที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยท่านได้สอนมาว่า ก่อนงานบุญใหญ่ 7 วันบุญจากพระนิพพานจะหลั่งไหลมาล่วงหน้าก่อน ถ้าเราทำใจให้ใส นึกถึงบุญที่จะเกิดขึ้นจากการบูชาข้าวพระเราก็จะได้บุญกันเน็ตเน็ตมากกว่าที่จะได้แค่มาร่วมงานบูชาข้าวพระวันเดียว
           เรียกว่าเตรียมตัวมาดีเลยก็ว่าได้เพราะว่าก่อนวันงานนั้นได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพ โถอาหารบูชาข้าวพระประจำเดือนนี้ ปลื้มใจจังเพราะว่าเราเลยเป็นต้นบุญให้กับคนทั้งหลายที่เขามาบูชาข้าวพระด้วยกัน สมมติว่ามีคนมาบูชาข้าวพระสัก 100,000 คนก็แปลว่าเราจะได้ เราจะได้มีส่วนในบุญที่เขาได้มาหลับตาทำสมาธิใจหยุดนิ่งใสสว่างและได้ไปบูชาข้าวพระ หลวงพ่อท่านบอกว่าการบูชาข้าวพระได้บุญมากเหมือนฝนที่ตกเต็มฝาครอบมากกว่าบุญปกติที่เราจะทำกันธรรมดา แต่นี่ได้ทำมาให้คนทั้งหลายเป็น 100,000 คนเลยนะ เพราะฉะนั้นบุญได้เยอะกว่าที่คาดแน่นอน
            ความเป็นผู้มีบุญเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตเพราะพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ว่า แหมการได้ แหมการได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็สำเร็จได้ด้วยบุญการได้เป็นพระพุทธเจ้ายังต้องอาศัยบุญแล้วตำแหน่งอื่นๆ เช่น พระราชา มหาเศรษฐี หรือคนมีปัญญาซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีคุณค่าน้อยกว่านักก็ต้องพึ่งบุญด้วยอย่างแน่นอน ต้นเดือนเลยไม่เคยพลาดตั้งแต่เข้าวัดมา ขอเอาบุญมาฝากทุกๆคนที่มาทีหลังให้ได้บุญย้อนหลังกันไปเท่าเทียมกันทั้งทีมนะครับ

วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2559

ประทับใจอะไรในวัดพระธรรมกาย



             ถ้าคุณอยากจะรู้ว่าไปวัดพระธรรมกายแล้วประทับใจอะไร ขอให้ลองไปดูแล้วมองสิ่งที่วัดเป็น สิ่งที่วัดสอน สิ่งที่คุณได้รับ ทั้งคุณธรรมภายนอกและภายใน ดวงใจใสๆที่เห็นคนทุกเพศทุกวัยมาทำความดีกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตากัน อุดมการณ์เป้าหมายชาวพุทธที่แทบไม่ค่อยจะได้ยินในหมู่ชาวพุทธหรือคนไปวัดทำบุญกันแล้ว ฯลฯ
             คำอธิบายมากมายที่รอให้เราไปพิสูจน์ว่าวัดดีอย่างที่เขาว่าไหม ทุกข้อล้วนถูกหมด ล้วนเป็นจริงไปหมด  แตกต่างกันตรงที่เขากล่าวมากันข้างบนนั้นล้วนเป็นความประทับใจในแง่ต่างๆต่างกรรมต่างวาระ แต่ที่เห็นเหมือนๆกันคือวัดนี้ต้องมีอะไรดีๆมากมายหลากหลายพอที่จะทำให้คนมองเห็นได้หลากแง่มุม แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ จุดเริ่มต้นทั้งหมดแห่งความดีงามนี้สั่งสอนอบรมและมีต้นแบบมาจากคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง
             ฉะนั้นถ้าจะให้พรรณาคุณความดีของคุณยายท่านเพื่อให้เราๆหลายๆคนที่ยังถามกันอยู่ว่าประทับใจอะไรในวัด หรือวัดมีดีอะไร คงเอาหนังสือของยายทุกๆเล่มไปอ่านแทนจะง่ายกว่า เพราะมันเยอะมาก อีกทั้งถ้าได้ฟังคนเล่าคุณธรรมความดียายที่ได้เจอกับตนอีกประมาณล้านแปด  อีกนานน่ะกว่าจะเล่าเรื่องยายจบ ไปหาอ่านได้ที่วัดพระธรรมกายนะ
             ความดีของคุณยายและความเป็นต้นแบบของท่านที่หล่อหลอมจนหลวงพ่อธัมมชโยท่านเป็นแบบนี้ได้ เป็นศูนย์รวมแห่งความดีที่เราประจักษ์กันในทุกวันนี้ได้ นี่แหละคือความประทับใจของฉันต่อวัดพระธรรมกาย ฉันประทับใจท่ีวัดพระธรรมกายมีคุณยายอาจารย์

วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2559

หลวงพ่อธัมมชโยให้อะไรแก่ฉัน


          พ่อแม่ให้อะไรดีๆแก่ฉัน?
          ครูบาอาจารย์ท่านมีพระคุณอย่างไร?
          ทำไมต้องเป็นคนดี?
          เราต้องมีความกตัญญูกตเวทีใช่ไหม? ฯลฯ
          ขบวนคำถามเหล่านี้ล้วนเป็นคำถามที่ทำให้เราระลึกถึงความดีของคนอื่น ระลึกถึงความดีของตนเองที่ได้รับการสั่งสอนจากคนอื่น ได้รับสิ่งดีๆมาจากคนอื่นแล้วปรับใช้กับตัวเรา มีคำถามประเภทนี้อีกมากมายซึ่งสร้างสรรค์และเกิดประโยชน์ แต่เพราะส่วนใหญ่เราไม่ค่อยนึกถึงคุณความดีกันเท่าไร ทำให้มองความดีของคนอื่นไม่ค่อยออกอย่างแท้จริง พอมองความดีคนอื่นไม่ออกก็เลยไม่ค่อยได้ตระหนักว่าแท้จริงแล้วที่โลกใบนี้ยังคงมีความงดงามและที่เรารอดพ้นเติบใหญ่โตมาขนาดนี้ก็เพราะความดีของคนต่างๆที่ผ่านมาในชีวิตของเรา เขาไม่ปล่อยให้เราตกไปในที่ชั่ว ปรารถนาให้เราเป็นคนที่ดีกว่า กว่าวันวานของเรา หล่อหลอมฟูมฟักจนเรากลายเป็นคนโตๆเอาตัวรอดในโลกใบนี้ได้อย่างมีสุข
           อย่าบอกนะว่าคุณๆดีได้ด้วยตัวเองทันทีหรือเอาตัวรอดได้ทันทีที่เกิดมาลืมตาดูโลก ถ้าไม่ได้ความรักและความเอื้อเฟื้อจากคนที่โตๆก่อนเรา สงสัยเราคงจะแย่ โลกจึงอยู่ได้ด้วยความดีที่สืบๆต่อกันมา จะเรียกว่าคุณธรรมและมโนธรรมก็คงไม่ผิด
           ถ้าจะให้พูดกันตรงๆที่อุตส่าห์เชยชมความดีของคนทั้งหลายมากมาย แท้จริงเขาเหล่านั้นก็ล้วนยังลำบากเพราะไม่รู้คตอภายภาคหน้า ทั้งหมดที่กล่าวมาก็แค่ทำให้เรารอดชีวิตไปวันๆแค่นั้น ยังไม่รับประกันว่าเราจะรอดในวังเวียนวนไปมาของการเวียนว่ายตายเกิด ต่อให้เราดีขนาดไหน แต่ถ้ายังไม่เข้าใกล้ความบริสุทธิ์ก็ถือว่ายังไม่ได้ทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เป็นแก่นของพระพุทธศาสนาให้ครบ นั่นคือ การละชั่ว ทำดี ทำใจให้ผ่องใส
          การทำใจให้ผ่องใสมีแต่ในพระพุทธศาสนาเพราะเป็นศาสนาเดียวที่พาเราไปเห็นต้นเหตุของการที่เราไม่บริสุทธิ์ และบอกวิธีการกำจัดความไม่บริสุทธิ์นั้นเป็นลำดับๆไป
         ฉันเองตั้งแต่เด็กๆก็คิดในใจเสมอว่าจะมีใครนำหนทางพระนิพพานมาบอกกล่าวและสอนให้ทำเป็นหรืออย่างน้อยที่สุดก็ขอให้อยู่ในเส้นทางที่จะนำพาไปที่สุดแห่งทุกข์นี้ได้ อ่านหนังสือมาเสียมากเจอแต่ว่าพิจารณาอริยสัจ 4 แล้วจะกำจัดกิเลสได้ พิจารณาด้วยปัญญาตัวหลายรอบก็ยังไม่หมดกิเลสสักที เราทำอะไรผิดหนอ หรือว่าจริงๆแล้วอริยสัจไม่ใช่การตรึกนึกคิด แต่เป็นสิ่งที่เหนือไปกว่านั้น
         จวบจนศึกษาไปมากขึ้นจึงเข้าใจเพิ่มว่าอริยสัจเกิดจากภาวนามยปัญญา แต่ก็ยังทำไม่เป็นอยู่ดีการภาวนา ท่องๆนี่เรียกภาวนาหรือเปล่า ท่องมาตั้งนานปัญญาก็ยังไม่เกิด ไปถามใครก็คลุมเครือให้คำตอบไม่ได้สักที เลยต้องพับความคิดนี้ไว้ชั่วคราวเพราะพบทางตัน
         จนได้มาศึกษานี่แหละที่วัดพระธรรมกาย ใช่แล้ววัดพระธรรมกายที่ดังๆนั่นแหละ ที่มีเจ้าอาวาสชื่อหลวงพ่อธัมมชโย ที่ท่านเป็นศิษย์เอกของคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูงผู้ให้กำเนิดวัดพระธรรมกาย ซึ่งคุณยายก็ได้รับการถ่ายทอดมาจากพระมงคลเทพมุนีหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ ที่ท่านได้นำวิธีการพบอริยสัจในตัวผ่านภาวนามยปัญญาจนกระทั่งเข้าถึงพระธรรมกาย ยืนยันว่าความบริสุทธิ์ที่ทำใจให้ผ่องใสทำได้จริง ซึ่งวัดพระธรรมกาย หลวงพ่อธัมมชโยท่านก็ตั้งชื่อมาจากผลของภาวนามยปัญญา จะได้ให้คนระลึกว่าเกิดมาเพื่อมาเข้าถึงพระธรรมกายที่มีอยู่จริงในตัว
         ฉันเองก็มาพิสูจน์ตัวเองว่าวัดพระธรรมกายนั้นจะนำพาฉันไปยังเป้าหมายคือนิพพานได้ไหม ที่หลวงพ่อธัมมชโยท่านสอนจะนำพาฉันไปนิพพานได้ไหม ผ่านการทำสมาธิอย่างจริงจังแต่ไม่เคร่งเครียด เอาใจวางไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ที่หลวงพ่อธัมมชโยท่านบอกให้รักษาใจอยู่ที่นี่ให้ได้ตลอดเวลา สิ่งที่ได้ในตอนนี้แม้ว่าจะยังไม่ได้เข้านิพพานไปจริงๆ แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าพระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง ที่ฉันทำสมาธิมาถึงจุดนึงก็เริ่มจะเข้าใจถึงความสุขภายในที่เกิดขึ้นจากใจหยุดนิ่ง สมดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าสุขอื่นนอกจากการหยุดการนิ่งเป็นไม่มี คำสอนที่หลวงพ่อธัมมชโยให้ทำ สอดคล้องกับที่พระพุทธเจ้าตรัส ฉันจึงมั่นใจว่ามาถูกทางแล้ว ความสุขและความหยุดนิ่งนี้มันพิสูจน์ได้ด้วยการปฏิบัติเอง และประสบการณ์ภายในก็เป็นตัวบอกว่าฉันทำถูกแล้ว ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ ปัญญาชนพึงรู้ได้ด้วยเฉพาะตนเองนี่เรื่องจริง
          ถ้าจะถามคำถามเดียวกันกับคำถามเริ่มต้นว่า หลวงพ่อธัมมชโยให้อะไรดีๆแก่ฉัน คำตอบสูงสุดคำตอบเดียวที่จะบอกคนถามก็คือ(จริงๆที่ดีๆได้มาจากหลวงพ่อท่านมีอีกมากมายหลายประการนัก)
                                                  หลวงพ่อธัมมชโยท่านให้หนทางนิพพานแก่ฉัน
 

วันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2559

สิ่งดีๆที่ฉันได้รับจากวัดพระธรรมกาย

       

         เวลามีคนถามว่าไปวัดพระธรรมกายดีอย่างไร ฉันก็ต้องขอมองหน้าคนถามก่อนเสมอว่าถามเพื่ออะไรหนอ จุดประสงค์คือสนใจใครรู้หรือสนใจใครด่า ( บางทีก็ทั้งสองอย่าง ) นั่นสินะวัดพระธรรมกายโดยการนำของพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยให้สิ่งดีๆอะไรกับฉันบ้าง
         ถ้าจะตอบคำถามเหล่านี้ให้คนเตรียมจะหายสงสัย หรือเตรียมจะถกเถียง หรือว่าเตรียมจะตำหนิด่าทอก็ตาม ฉันต้องทำตามหลักวิชชาที่หลวงพ่อธัมมชโยท่านเพียรสอนเสมอเสียก่อน คือให้ทำใจใสๆ ให้มีจิตเมตตา ให้มีความรู้สึกถึงการเป็นผู้ให้ที่ปรารถนาดีต่อทุกคน เพราะการแก้ไขความเข้าใจให้ตรงกันนั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้กำลังใจและอดทนด้วยใจเบิกบานที่ส่งผ่านรอยยิ้มออกมาทางสีหน้าแววตา เหมือนเวลาที่เจอเจ้าหน้าที่อาสามสมัครของวัดพระธรรมกายยิ้มแย้มต้อนรับกล่าวสวัสดีไม่ว่าคนๆนั้นจะรวยจนสูงต่ำดำขาว ล้วนได้รับการต้อนรับพื้นฐานที่เท่าเทียมกัน ซึ่งไม่ค่อยได้เจอที่ไหนเท่าไรที่จะต้อนรับกันได้น่าอบอุ่นใจขนาดนี้ เป็นธรรมเนียมที่วัดพระธรรมกายสอนผ่านๆกันมาให้เรามีรอยยิ้มและบรรยากาศสดชื่นเพื่อสร้างอารมณ์สบาย อารมณ์ที่พร้อมจะมาแสวงบุญกัน
         พอเตรียมใจแล้วก็ต้องเตรียมกายและวาจาให้พร้อมต่อเพราะว่ากายเป็นที่รองรับใจถ้ากายไม่สบายใจก็สบายยาก วาจาที่ออกมาถ้าไม่ดี ใจก็สบายยาก หลวงพ่อธัมมชโยท่านสอนมาแบบนี้ ว่าแต่ฉันเตรียมกายอย่างไรล่ะ ง่ายมากเพราะเตรียมมาทุกวันคือทำตัวให้สะอาดทั้งเสื้อผ้าหน้าผม สะอาดด้วยศีลที่ตั้งใจรักษา พร้อมที่จะพูดความจริงด้วยปิยวาจา นี่ยังไม่หมดแค่นี้นะ หลวงพ่อธัมมชโยท่านสอนให้มีมารยาทและอ่อนน้อมถ่อมตน ให้ค่อยๆสอนไปตามลำดับใจเย็นๆ เน้นทำให้ดูเป็นตัวอย่างเป็นต้นแบบ เพราะความน่าเชื่อถือของเราก็เกิดจากว่าเราทำได้เหมือนที่พูดอธิบายเขาไหม
        ยังไม่จบแค่นั้นก่อนจะบอกความจริงเขาก็ต้องมีสติ เรียบเรียงคำให้ดี ให้เป็นคำถูกต้องเป็นจริงและเหมาะสมกับผู้ฟัง รวมทั้งเตรียมคำตอบสำหรับคำถามเดิมๆที่คนมักเข้าใจผิดวัดพระธรรมกาย เข้าใจผิดหลวงพ่อธัมมชโย โดยเอาหลักของพระไตรปิฎกและคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาศึกษาเทียบเคียง ทำให้ได้โอกาสศึกษาคำสอนอย่างจริงๆจังๆเลยพลอยได้เข้าใจพระพุทธศาสนาได้กว้างขวางและลุ่มลึกมากขึ้นอีกด้วย
       แล้วก็ต้องคิดว่าการทำงานของวัดพระธรรมกายเกี่ยวข้องกับประโยชน์ส่วนรวมในสถาบันไหนๆบ้าง คิดไปมาก็เริ่มจากสถาบันครอบครัว สอนให้รักพ่อแม่พี่น้อง สถาบันการศึกษา สอนให้ตั้งใจเรียน เคารพคุณครู สถาบันสังคม สอนให้คิดถึงส่วนรวม ทำความดีเพื่อคนหมู่มาก สถาบันพระพุทธศาสนาให้ช่วยกันดูแลพระและวัดใกล้บ้าน บางทีก็ไปดูแลพระภาคใต้ บวชเณร บวชพระมากมาย สถาบันอื่นๆสังคมและหน่วยงานอีกมากมาย เรียบเรียงไว้เผื่อเอาไว้ตอบเขาเยอะแยะมากมายไม่หมด
        ที่สำคัญที่สุดคือต้องนึกว่าเค้าจะได้ประโยชน์อะไรจากการถามคำถามนี้กลับติดตัวไปบ้าง เลยต้องใช้เวลาสักหน่อย เพราะว่าอุตส่าห์มาถึงตรงหน้าเราแล้วก็ถือว่าคนๆนั้นโชคดีจะได้ฟังสิ่งดีๆที่ฉันได้รับจากการมาวัดพระธรรมกาย จริงๆมีมากกว่านี้อีกนะเขียนเตรียมไว้อีกเป็นหลายหน้ากระดาษ เหตุการณ์ดีอีกนับไม่ถ้วน ความปีติและภาคภูมิใจในความดีอีกหลากหลาย เลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียวว่าจะเอาอะไร
       พวกคุณคิดดูสิขนาดแค่คิดจะตอบเขาใจฉันกายฉันก็ใสสะอาดบริสุทธิ์ขึ้นเป็นกองเพราะระลึกแต่สิ่งดีๆ แต่ถ้าเขาไม่มีเวลาจะฟังนานเป็นวันๆฉันก็จะบอกเขาสั้นๆว่าวัดพระธรรมกายและหลวงพ่อธัมมชโยทำให้ฉันเป็นคนดี

วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2559

ครั้งแรกกับวัดพระธรรมกาย


         เมื่อก่อนไม่เคยคิดเลยว่าคนอย่างฉันจะได้มารู้จักกับพระพุทธศาสนา หรือมีศรัทธาในพระรัตนตรัยอย่างจริงๆจังๆ เพราะชีวิตมีความสุขสนุกสนานไปวันๆก็พอใจแล้ว จนต่อเมื่อวันหนึ่งในขณะเข้าเรียนชั้นอุดมศึกษาก็มีโอกาสจับพลัดจับผลูมาที่วัดพระธรรมกายโดยบังเอิญ ต้องเรียกว่าบังเอิญเพราะไม่เคยคิดจะมาเลย ตอนเด็กๆก็เคยได้ยินข่าวว่าวัดพระธรรมกายที่มีหลวงพ่อธัมมชโยเป็นเจ้าอาวาสไม่ดีอย่างนั้นไม่ดีอย่างนี้ แต่ก็ได้มาด้วยการติดต่อกับคนในวัดให้มาช่วยทำงานเล็กๆน้อยๆให้ กลับระลึกได้ว่าอ้อ นี่วัดพระธรรมกายที่เขาพูดถึงกันเป็นอย่างนี้ ครั้งแรกที่มาไม่เคยได้เจอพระหรือเณร เจอแต่สถานที่สะอาดตา ใหญ่โต ที่เราก็ได้แต่คิดว่าเออใหญ่ดีแฮะ พอถามเขาก็บอกว่าวัดใหญ่เพราะคนมาวัดเยอะก็ต้องสร้างให้พอใช้งาน  
         พอเดินมาถึงที่ๆจะมาช่วยงานเขา เราก็เห็น มีแต่คนใส่ชุดขาวที่เขาทำงานในวัดมาต้อนรับ เพิ่งรู้ตอนมาได้หลายๆครั้งว่าบุคคลที่ทำงานให้กับวัดพระธรรมกายเหล่านี้คืออุบาสกอุบาสิกาถือศีล 8 พวกเค้ามีศรัทธาในหลวงพ่อธัมมชโย ศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้าจึงอุทิศตัวเพื่อมาช่วยงานที่วัดพระธรรมกาย เราก็ได้แต่คิดว่า โอหนอ คนที่เขาคิดทำความดีกันขนาดนี้ก็มีด้วยนะ รู้สึกทึ่งว่าคนจบปริญญามีความรู้ความสามารถขนาดนี้อยู่นอกวัดคงไม่ลำบาก กลับมาทำงานงกๆอยู่ในวัดเพื่ออุดมการณ์ความดี แสดงว่าคนที่เป็นผู้นำต้องเป็นแรงยึดเหนี่ยวที่สำคัญและต้องดีพอที่คนเหล่านี้จะยอมทิ้งความสะดวกสบายมาอยู่ทำงานที่วัดพระธรรมกาย แล้วท่านเจ้าอาวาสที่เราเรียกกันติดปากว่าหลวงพ่อธัมมชโยเป็นใครกันหนอ ท่านดีอย่างไรทำไมคนถึงยอมท่านขนาดนี้
         ปรากฏว่าไม่ได้เจอกันง่ายๆเพราะว่าเค้าบอกว่าหลวงพ่อธัมมชโยเจ้าอาวาสมีภารกิจมาก อยากดูท่านให้ไปดูตอนค่ำท่านจะมาลงเทศน์สอนธรรมะ  เราก็รออย่างใจจดใจจ่อว่าพระที่เป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย วัดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยจะเป็นอย่างไร
        และแล้วพอถึงเวลาก็ได้เจอ ครั้งแรกถึงกับตะลึงเพราะไม่เคยเจอพระผ่องใสและดูสว่างไสวขนาดนี้ เกิดความสงสัยทันทีว่าทำไมหลวงพ่อธัมมชโยถึงดูสว่างและดูหนุ่มมาก ถามคนที่ดูท่านเทศน์อยู่ข้างๆเขาก็บอกว่าหลวงพ่อท่านมีธรรมะมีคุณธรรมคุณวิเศษ ได้ดูก็ว่าดีแล้ว พอฟังธรรมะก็ถูกอัธยาศัยกว่าเดิมทำไมเทศน์ได้สนุกน่าฟังและมีสาระที่เราไม่เคยรู้ สิ่งที่ได้รู้และเปลี่ยนความคิดตนที่เคยบอกตัวเองว่าเกิดมาใช้กรรม( แต่ขัดใจเพราะไม่อยากเกิดมาแค่รับผลที่ตนเคยทำมา แต่ไม่รู้นี่นาย่าจะต้องทำอย่างไร) ท่านสอนว่าคนเราเกิดมาเพื่อมาแก้ไขตนเอง มาเพิ่มเติมความดีงาม มาทำพระนิพพานให้แจ้ง เกิดมาสร้างบารมี ได้ฟังแบบนี้เนี่ยค่อยสบายใจเพราะไม่ได้เกิดมาเพียงใช้กรรมนี่หว่า เกิดมามีหน้าที่ ดีใจที่ได้มาพบคำตอบที่วัดพระธรรมกาย ได้มาพบคำสอนของหลวงพ่อธัมมชโย
        ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในวันแรกและครั้งแรกที่มาวัดเลยนะ จะบอกว่าย้อนกลับไปนึกถึงไม่เสียใจเลยที่วันนั้นตอบรับคำชวนมาวัดเพื่อช่วยงาน ทั้งๆที่ใจจริงอยากจะไปเล่นเกมกับเล่นกีฬามากๆ ถ้าไม่ได้มาวันนั้นคงไม่ได้มีเราในวันนี้ ที่ได้รู้จักเส้นทางรู้จักผู้นำที่จะพาเราไปสู่หนทางแห่งการดับทุกข์จริงๆ ขอบคุณวัดพระธรรมกาย และกราบขอบพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยที่ทำให้ลูกได้เป็นผู้ร่วมอุดมการณ์ไปด้วยกันกับท่าน